สำหรับการเดินสายไฟไปยังจุดต่างๆนั้น ตามมาตรฐานควรจะมีการป้องกัน สายไฟ ถึงแม้นว่าสายไฟจะมีฉนวนหุ้ม แต่ เพื่อป้องกันความเสียหายจากแรงกระแทก หรือ สิ่งต่างๆที่จะมาทำลายสายไฟได้ และ เพื่อป้องกันความเสียหาย จะมีการเดินสายไฟใน ท่อโลหะ ร้อยสายไฟ หรือ เป็น รางเดินสายไฟ ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ราง ไวร์เวย์ ราง เคเบิ้ลเทรย์ ราง เคเบิ้ลแลดเดอร์ ขึ้นอยู่กับ ชนิด ขนาด และ จำนวนของสายไฟที่เดิน และ สภาพแวดล้อมการใช้งาน สำหรับ รางไฟ สำหรับการเดินสาย สามารแบ่งเป็น ประเภทต่างๆได้เช่น
รางไฟ ไวร์เวย์ เป็นรางสำหรับใช้เดินสายไฟ โดยผลิตขึ้นรูปจากโลหะแผ่น พับเป็นสี่เหลี่ยมมีฝาเปิดปิด ความหนาโดยทั่วไปตั้งแต่ 0.8-2 mm. และ เคลืบผิวด้วยสี Powder Coating หรือ ใช้เป็น อลูซิงค์ หรือ ชุบกัลวาไนซ์ เพื่อป้องกันการกัดกร่อน ขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมที่นำไปใช้งาน การเดิน เข้ามุมต่างๆจะมีเป็นข้องอ ขึ้น ลง ฉาก และ อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการประกอบ
ตัวอย่างการเลือกใช้รางไวร์เวย์ตามขนาดที่เหมาะสม เช่น หากต้องการใช้สำหรับสายไฟ IEC 01 ขนาด 25sqm จำนวน 27 สาย
สายแต่ละเส้นจะมีพื้นที่ตัดขวางทั้งหมด 73.8 sqm x 27 = 1992.6sqm โดยพื้นที่หน้าตัดรวมของสายไฟฟ้านั้นไม่ควรเกิน 20% ของ พื้นที่หน้าตัด รางเดินสาย ดังนั้น ควรเลือกใช้รางที่มีขนาด พื้นที่หน้าตัด 1992.6*100/20 = 9963sqm ซึ่งก็คือรางไซส์มาตรฐาน 100×100 mm.
สำหรับราง เคเบิ้ลเทรย์ อาจใช้เรียกรวมถึง รางแบบเป็นขั้นบันได หรือ เคเบิ้ลแลดเดอร์ โดยทั่วไปจะเป็นลักษณะราง ที่มีโครงสร้างเพื่อรับสายเคเบิ้ลต่างๆ ที่ค่อนข้างมีจำนวน และ น้ำหนักที่มากกว่า Wireway นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ติดตั้งได้ง่าย มีมาตรฐาน ความกว้างตั้งแต่ 200 , 300 , 400 , 500 , 600 , 700 , 800 , 900 , 1000 mm.
สำหรับกรเลือกใช้ ควรเลือกใช้ เคเบิ้ลเทรย์ ที่มีความกว้างไม่น้อยกว่า ผลรวมเส้นผ่านศูนย์กลางของสาย สามารถเผื่อไว้เล็กน้อยประมาน 25%
ตัวอย่างเช่นหากต้องการใช้ เคเบิ้ลเทรย์เพื่อ เดินสายไฟ NYY 12 (1/C , 95sqm) เส้นผ่านศูนย์กลางรวมของสสายจะเท่ากับ 12*21.5 = 258 mm. เผื่อขนาดกว้างเพิ่ม 25% จะเท่ากับ 322.5 mm. ดังนั้น ควรจะเลือกใช้เคเบิ้ลเทรย์ที่ขนาด 400 mm.